ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก ปัญหากวนใจ ที่ส่งผลต่อความมั่นใจ หลายคนอาจเคยลองวิธีต่างๆ เพื่อแก้ปัญหา แต่ก็ยังไม่พบผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ในปัจจุบัน เทคโนโลยีความงามมีการพัฒนาอย่างก้าวหน้า หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยม คือ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
สาเหตุของปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก
พันธุกรรม: โครงสร้างกระดูกเบ้าตา ใต้ตาลึก เป็นลักษณะเฉพาะบุคคล ที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ: การนอนน้อย ทำให้เลือดไหลเวียนมาบริเวณใต้ตาน้อยลง ส่งผลให้ใต้ตาคล้ำ
อายุที่เพิ่มมากขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจน และอิลาสตินใต้ผิวหนังลดลง ส่งผลให้ผิวหนังหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย ใต้ตาลึก
ความเครียด: ความเครียด ส่งผลต่อระบบไหลเวียนเลือด ทำให้ใต้ตาคล้ำ
การสูบบุหรี่: สารเคมีในบุหรี่ ส่งผลต่อสุขภาพผิว ทำให้ใต้ตาคล้ำ
การขยี้ตา: การขยี้ตา กระตุ้นให้เกิดรอยคล้ำ ริ้วรอย และใต้ตาลึก
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการเติมสารไฮยาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าใต้ผิวหนังบริเวณใต้ตา สารไฮยาลูโรนิคแอซิด เป็นสารที่พบในร่างกายตามธรรมชาติ มีหน้าที่กักเก็บน้ำ ทำให้ผิวหนังดูอิ่มฟู เต่งตึง
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เห็นผลลัพธ์ทันที: หลังฉีด ใต้ตาจะดูอิ่มฟู รอยคล้ำ รอยตีนกา ใต้ตาลึก ดูจางลง
ปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อย: สารไฮยาลูโรนิคแอซิด เป็นสารที่ร่างกายสามารถย่อยสลายได้เอง จึงมีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงมักเป็นรอยแดง อาการบวม ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน
ใช้เวลาน้อย พักฟื้นรวดเร็ว: ใช้เวลาทำประมาณ 30 นาที หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน: ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ และปริมาณที่ฉีด
แก้ปัญหาใต้ตาได้หลากหลาย: ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก รอยคล้ำ รอยตีนกา
ปรับรูปตาให้ดูกลมโต สดใส: การเติมฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยให้ดวงตาดูกโตขึ้น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก็มีข้อจำกัด ดังนี้
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้
- ไม่เหมาะกับผู้หญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น รอยแดง อาการบวม ในบางราย
- ผลลัพธ์อาจไม่ถาวร ต้องเติมฟิลเลอร์ซ้ำ เพื่อคงผลลัพธ์
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ทันที แต่ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และปรึกษาแพทย์ก่อนทำ เพื่อประเมินสภาพผิว